วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560

แพะนม


  

                 การเลี้ยงแพะนม


หน้าแพะ-จริงใจฟร์มแพะ
หน้าหนูสวยป่าว คะ

การเลี้ยงแพะในประเทศไทยของเรามีมายาวนานมาก และกระแสการบริโภคน้ำนมแพะเพื่อสุขภาพก็มาแรงในช่วงหนึ่ง จนมีข่าวที่ไม่สู้จะดีนัก และทำให้การบริโภคน้ำนมแพะลดลง ทั้งนี้เนื่องจากโรคระบาดของแพะที่สามารถติดต่อมาสู่คนได้ เรื่องนี้ต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาแพะมาให้ความกระจ่างกันซักหน่อยจะดีกว่า
       อาจารย์ลักษณ์ เพียซ้าย หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาการผลิตสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม หรือมีชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า ศูนย์แพะ-แกะ ได้ให้รายละเอียดอย่างกระจ่างแจ้งในเรื่องของแพะว่า แพะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องมี 4 กระเพาะ ประเภทเดียวกับโคและกระบือ แต่ตัวมีขนาดที่เล็กกว่า จึงเรียกว่าสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก 
(Small Ruminant) และกินหญ้าเป็นหลัก รวมไปถึงไม้พุ่มที่มีขนาดเล็กเกือบทุกชนิด
       แพะมีความผูกพันกับคนเรามาช้านาน โดยเฉพาะชาวมุสลิม โดยชาวบ้านจะเลี้ยงในครัวเรือนประมาณ 5-10 ตัว แต่ในปัจจุบันกระแสการเลี้ยงแพะค่อนข้างจะมาแรง โดยเฉพาะนมแพะ เกษตรกรเริ่มสนใจหันมาเลี้ยงแพะกันมากขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย แพะมีความสามารถในการเปลี่ยนอาหารที่มีเยื่อใย (Fiber) เช่น ใบไม้ หญ้าชนิดต่าง ๆ ให้เป็นโปรตีนในรูปของเนื้อและนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอายุในการเลี้ยงสั้นคือ เมื่ออายุ 10-12 เดือน ก็สามารถผสมพันธุ์ได้ และใช้เวลาในการอุ้มท้อง 5 เดือน ก็จะให้ลูกได้ และบางครั้งยังให้ลูกแฝดอีกด้วย
       กระแสการดื่มน้ำนมแพะในขณะนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากกลุ่มผู้สนใจดูแลรักษาสุขภาพ จากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ แต่คนไทยยังไม่คุ้นเคยกับการดื่มน้ำนมแพะกันมากนัก นอกจากชาวมุสลิมที่ดื่มน้ำนมแพะกันมานาน โดยมีคำบอกเล่าว่าการดื่มน้ำนมแพะ จะสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ได้ ถ้าเทียบระหว่างน้ำนมแพะกับน้ำนมโค นมทั้ง 2 ชนิดก็มีประโยชน์เหมือนกัน แต่ในน้ำนมแพะจะมีเม็ดไขมันที่มีขนาดเล็กกว่าน้ำนมโค เพราะฉะนั้นไขมันจากน้ำนมแพะจะย่อยได้ง่ายกว่า ร่างกายก็สามารถดูดซึมได้เร็วขึ้น และไม่เกิดอาการของท้องอืด ท้องเสีย หรืออาเจียน นอกจากนี้ในน้ำนมแพะยังมีโปรตีน และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายค่อนข้างจะมาก มีไวตามินบี แร่ธาตุ แคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่ค่อนข้างสูง เหมาะกับทุกเพศทุกวัย แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของกลิ่นในน้ำนมแพะ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะตัวเช่นเดียวกับกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อแกะ ซึ่งผู้ที่เริ่มบริโภคน้ำนมแพะ อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคยในระยะแรก แต่จะรู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่ปกติ ถ้าหากเราดื่มทุกวัน ส่วนวิธีการเลือกซื้อนมแพะที่ถูกต้องนั้น จะต้องเลือกน้ำนมแพะที่สุก มีการพาสเจอร์ไรส์ที่อุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียส และต้องสังเกตสลากวันผลิต วันหมดอายุข้างขวดด้วย
                            การเลี้ยงแพะ
 การเลี้ยงแพะในประเทศไทยของเรามีมายาวนานมาก และกระแสการบริโภคน้ำนมแพะเพื่อสุขภาพก็มาแรงในช่วงหนึ่ง จนมีข่าวที่ไม่สู้จะดีนัก และทำให้การบริโภคน้ำนมแพะลดลง ทั้งนี้เนื่องจากโรคระบาดของแพะที่สามารถติดต่อมาสู่คนได้ เรื่องนี้ต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาแพะมาให้ความกระจ่างกันซักหน่อยจะดีกว่า
       อาจารย์ลักษณ์ เพียซ้าย หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาการผลิตสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม หรือมีชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า ศูนย์แพะ-แกะ ได้ให้รายละเอียดอย่างกระจ่างแจ้งในเรื่องของแพะว่า แพะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องมี 4 กระเพาะ ประเภทเดียวกับโคและกระบือ แต่ตัวมีขนาดที่เล็กกว่า จึงเรียกว่าสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก (Small Ruminant) และกินหญ้าเป็นหลัก รวมไปถึงไม้พุ่มที่มีขนาดเล็กเกือบทุกชนิด
       แพะมีความผูกพันกับคนเรามาช้านาน โดยเฉพาะชาวมุสลิม โดยชาวบ้านจะเลี้ยงในครัวเรือนประมาณ 5-10 ตัว แต่ในปัจจุบันกระแสการเลี้ยงแพะค่อนข้างจะมาแรง โดยเฉพาะนมแพะ เกษตรกรเริ่มสนใจหันมาเลี้ยงแพะกันมากขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย แพะมีความสามารถในการเปลี่ยนอาหารที่มีเยื่อใย (Fiber) เช่น ใบไม้ หญ้าชนิดต่าง ๆ ให้เป็นโปรตีนในรูปของเนื้อและนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอายุในการเลี้ยงสั้นคือ เมื่ออายุ 10-12 เดือน ก็สามารถผสมพันธุ์ได้ และใช้เวลาในการอุ้มท้อง 5 เดือน ก็จะให้ลูกได้ และบางครั้งยังให้ลูกแฝดอีกด้วย
       กระแสการดื่มน้ำนมแพะในขณะนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากกลุ่มผู้สนใจดูแลรักษาสุขภาพ จากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ แต่คนไทยยังไม่คุ้นเคยกับการดื่มน้ำนมแพะกันมากนัก นอกจากชาวมุสลิมที่ดื่มน้ำนมแพะกันมานาน โดยมีคำบอกเล่าว่าการดื่มน้ำนมแพะ จะสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ได้ ถ้าเทียบระหว่างน้ำนมแพะกับน้ำนมโค นมทั้ง 2 ชนิดก็มีประโยชน์เหมือนกัน แต่ในน้ำนมแพะจะมีเม็ดไขมันที่มีขนาดเล็กกว่าน้ำนมโค เพราะฉะนั้นไขมันจากน้ำนมแพะจะย่อยได้ง่ายกว่า ร่างกายก็สามารถดูดซึมได้เร็วขึ้น และไม่เกิดอาการของท้องอืด ท้องเสีย หรืออาเจียน นอกจากนี้ในน้ำนมแพะยังมีโปรตีน และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายค่อนข้างจะมาก มีไวตามินบี แร่ธาตุ แคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่ค่อนข้างสูง เหมาะกับทุกเพศทุกวัย แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของกลิ่นในน้ำนมแพะ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะตัวเช่นเดียวกับกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อแกะ ซึ่งผู้ที่เริ่มบริโภคน้ำนมแพะ อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคยในระยะแรก แต่จะรู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่ปกติ ถ้าหากเราดื่มทุกวัน ส่วนวิธีการเลือกซื้อนมแพะที่ถูกต้องนั้น จะต้องเลือกน้ำนมแพะที่สุก มีการพาสเจอร์ไรส์ที่อุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียส และต้องสังเกตสลากวันผลิต วันหมดอายุข้างขวดด้วยการเลี้ยงแพะในประเทศไทยของเรามีมายาวนานมาก และกระแสการบริโภคน้ำนมแพะเพื่อสุขภาพก็มาแรงในช่วงหนึ่ง จนมีข่าวที่ไม่สู้จะดีนัก และทำให้การบริโภคน้ำนมแพะลดลง ทั้งนี้เนื่องจากโรคระบาดของแพะที่สามารถติดต่อมาสู่คนได้ เรื่องนี้ต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาแพะมาให้ความกระจ่างกันซักหน่อยจะดีกว่า
                                               พันธุ์แพะนม




แพะนมลูกผสมพันธุ์ซาแนน-แองโกลนูเบียน และพันธุ์แองโกลนูเบียน เป็นแพะนมที่สามารถเลี้ยงได้ในสภาพพื้นที่ราบ และพื้นที่สูง เนื่องจากสามารถปรับตัวต่อสภาพอากาศร้อนหรือหนาวชื้นได้ดีให้นมประมาณตัวละ1.5 – 2.2 กิโลกรัมต่อวัน นาน 120-150 วัน ให้ลูกปีละ 2 ครอกๆละ 2 – 3 ตัวและมีอายุประมาณ 12-14 ปี  

การจัดการเลี้ยงดู




การเลี้ยงแพะนมเพื่อเป็นอาชีพหรือเสริมรายได้ ควรจะมีพื้นที่สำหรับปลูกพืช อาหารสัตว์ให้แพะกิน ถ้าเป็น พื้นที่ราบ และอยู่ในเขตชลประทาน ประมาณ 1 ไร่/ตัวถ้าอยู่นอกเขตชลประทานหรือพื้นที่สูง ควรมีพื้นที่ประมาณ 2-4 ไร่/ตัว(ในกรณีเลี้ยงขังคอกแล้วตัดหญ้าให้กิน) แพะมักจะเลือกกินอาหารเอง เช่นใบไม้ ต้นกระถิน ต้นไมยราพยักษ์ และต้องเสริมอาหารข้น,แร่ธาตุ พร้อมทั้งน้ำกินที่สะอาดอย่างเพียงพอ ควรมีโรงเรือนที่ยกระดับจากพื้น เนื่องจากแพะชอบความสะอาด และอากาศถ่ายเท มีการตรวจโรคที่สำคัญและฉีดวัคซีนป้องกันโรคประจำ อีกทั้งควรถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แพะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
ทำเลที่จะทำการเลี้ยงแพะนม
1.เส้นทางคมนาคมสะดวก
2.มีแหล่งน้ำสะอาดเพียงพอ ตลอดเวลา
3.เป็นพื้นที่ดอน น้ำถ่วมไม่ถึง
4.ไม่เคยเป็นโรคระบาดมาก่อน
5.พื้นที่โปร่งใส่ระบายอากาศได้ดี
6.มีพื้นที่ปลูกหญ้าเพียงพอ
ประโยชน์ของน้ำนมแพะ นมแพะทุกหยดลดภูมิแพ้ เรื่องของนมแพะกับโรคภูมิแพ้มักจะเป็นเรื่องที่พูดถึงกันอยู่เสมอ การดื่มนมแพะเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรคภูมิแพ้บรรเทาลงและหายในที่สุด เป็นคำยืนยันของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่หันมาบริโภคนมแพะเป็นประจำแทนการกินยา

        

                        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น